*พอประกวดเสร็จชีวิตเปลี่ยนไปมั้ย?
เปลี่ยนไปค่ะ ตอนอยู่ในบ้านไม่ได้รับรู้ข่าวสาร แต่พอออกมาก็มีคนรักและคอยเชียร์เราอยู่ ทีแรกคิดว่าออกมาจะต้องเจอโลกภายนอก ที่อาจไม่ดีเหมือนในบ้าน กลับกันเราได้รับแต่สิ่งดี ๆ เจอแฟนคลับที่เชียร์หนูโทรฯมาหาถามเราเป็นยังไง รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นที่มีคนรักเรา รอที่จะคุย กับเรา คอยช่วยเหลือเราอยู่นะ ตอนอยู่ในบ้านไม่ทราบกระแสตัวเองเลยค่ะ พอออกมาแล้วพอรู้บ้าง ทีแรกก็งง ๆ แต่ก็รู้สึกดีใจที่มีเรื่องดี ๆ อยู่
*เกรซเป็นคนหนึ่งที่ทำให้มีกระทู้พูดถึงเยอะมาก?
รู้สึกว่าเป็นเรื่องดีนะคะ ถ้าไม่มีคนเกลียดเรา เราก็จะไม่รู้เลยว่า มีคนรักเราอยู่ เหรียญมันมีสองด้านอยู่แล้ว ตัวหนูเองไม่เสียใจ เราก็มองโลกในแง่ดีว่ามีคนรักอยู่ ส่วนคนที่เขาเกลียดก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
*เกรซเป็นคนสร้างประโยคฮิต “พี่ว่าหนูสวยมั้ยคะ” ทำไมถึงพูดประโยคนี้ออกมา?
ความจริงพี่คนที่สัมภาษณ์ถามหนูว่า จริง ๆ แล้วคิดว่าตัวเองสวยมั้ย แล้วหนูก็บอกว่า ไม่แน่ใจจะตอบยังไงดี หนูก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน หนูก็เลยหันไปถามพี่เขา ก็เลยหันไปถามว่า แล้วพี่คิดว่าหนูสวยมั้ยคะ ถ้าเกิดพี่ว่าหนูสวยเนี่ยหนูก็คงจะสวยแหละค่ะ มันก็มีหลายมุมมองเหมือนงานศิลปะที่คนโน้นบอกสวยอีกคนบอกไม่สวย หนูก็ไม่ใช่คนที่สวย ที่สุด ต้องมีคนสวยกว่าหนูอยู่แล้ว ตอนที่คำนี้ออกมาก็งง ๆ ค่ะ แต่หนูสงสัยว่าเวลารายการมันน้อยพี่เขาเลยตัดมาโดนตรงนี้ พอดีแจ๊กพอตเลย แต่ก็ไม่ได้เสียใจ ประโยค ๆ นี้ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง หนูก็เป็นตัวหนูไม่ได้คิดว่าไปสวยกว่าใคร หรืออะไร
*บนเวทีโดนคอมเมนต์หนัก ทำยังไงถึงจะยืนยิ้มสู้อยู่ได้?
นึกถึงคำสอนของแม่ นึกถึงอะไรหลาย ๆอย่าง สิ่งที่ดี ๆ ที่ทำให้เรายิ้มออกมาได้ อย่างน้อยถึงเราจะเจอสถานการณ์หนักขนาดไหน แต่ถ้าเกิดเรายิ้มออกมาก็จะทำให้อะไร ๆ มันดีขึ้น คุณแม่จะสอนตลอดให้ตั้งสติมองโลกแง่ดีคิดบวก ตอนนี้ก็ เหมือนกับเรากำลังขึ้นบันไดตอนนี้เป็นก้าวแรก แม่บอกว่าให้เราดูตรงบันไดนั้นตรงที่พังหรือสกปรก ให้เราซ่อมซะ และจดจำเพื่อที่เวลาที่เราจะก้าวผ่านไป เราจะได้จำไว้ว่าที่ผ่านมามีอะไร ตกลง มาจะได้ไม่เจ็บมาก บันไดนั้นมีคนมากมายผ่านไป ๆ อย่าคาดหวังว่าจะมีที่พอให้เราปู ที่นอนนอนได้อย่างสบาย เราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา จดจำทุกเรื่องราวที่ผ่านมาเพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ ที่จะก้าวต่อไป ทุกอย่างที่ทำ ทำให้ดีที่สุด
*ชีวิตผูกพันกับคุณแม่มาก?
ค่ะ เกรซ อยู่กับคุณยายด้วย เพราะคุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน
*ตรงนี้ทำให้เรามีปัญหามั้ย?
ไม่ค่ะ คือหลาย ๆ คนก็มีปัญหา แต่คุณแม่ไม่เคยสอนหรือทำให้เรารู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นปัญหาของชีวิต คุณแม่ให้หนูครบทุกอย่างแล้วก็มีความสุขที่มีทุกวันนี้ค่ะ เรื่องประกวดแม่ช่วยเป็นกำลังใจทุกอย่างตั้งแต่สมัคร แม่แต่งหน้า ทำผม ดูแลให้ทุกอย่าง ช่วยสอน อย่างรอบแรก หนูไม่รู้ว่าจะร้องเพลงอะไรคุณแม่ก็บอกและสอนทุกอย่างค่ะ
*ร้องเพลงไม่เก่งแต่ทำไมถึงตัดสินใจมาประกวด?
คิดว่าเดอะสตาร์ ไม่ได้ต้องเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะที่สุด แต่หนูมาด้วยใจ หนูอยากทำตรงนี้ การเข้ามาเรียนรู้แล้วฝึกฝนเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้ถึงจุด ๆหนึ่งที่คนอื่นยอมรับ หนูคิดว่าไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของมนุษย์ แล้วหนูคิดว่าจากวันแรกที่มาประกวดจนถึงวันนี้ หนูก็ร้องดีขึ้นแล้วนะ แต่มันไม่พอ แล้วถ้าเกิดเราฝึกฝนต่อไปอีกก็คิดว่าสักวันหนึ่ง มันคงจะพอแล้วถ้าคนเรามีความพยายามทุกอย่างจะสามารถผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ ถึงหนูจะไม่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิดว่าร้องเพลงเพราะ แต่คนเราฝึกกันได้ หนูเชื่อมั่นในเรื่องการฝึกฝนและความพยายาม ทุกวันนี้ก็ยังฝึกที่บ้านด้วย ฝึกตลอดเพื่อที่จะให้มันดีขึ้น
*จริง ๆ แล้วอยากเป็นนักร้องมั้ย?
หนูบอกตามตรงเลยตอนแรกไม่เคยอยากเป็นนักร้องเลยพอได้เรียนรู้ฝึกฝน หนูเห็นความพยายามของทุก ๆ คนที่มาสมัคร เห็นสิ่งที่พวกเขาทุ่มเท ทำให้หนูเริ่มชอบแล้วก็ฝึกไปเรื่อย จนรู้สึกรัก แล้วเราอยากทำตรงนี้ อยากทำให้ได้จริง ๆ ตัวหนูยังต้องปรับอีกเยอะ แต่ถึงยังไงก็จะทำให้มันเต็มที่ที่สุด เดี๋ยวก็จะมีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว ไหน ๆ ได้ทำเพลงแล้วเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ก็อยากทำออกมาให้ดีที่สุด เท่าที่ความสามารถทั้งหมดจะมี
*ดูเป็นคนมุ่งมั่นกับทุก ๆ สิ่งที่ทำมาก?
ค่ะ คนเราถ้าเกิดจะทำอะไรแล้ว อยากจะทำให้เต็มที่ ทุ่มให้ดีที่สุดไปเลย ถ้าเราไปทำอย่างละนิด ๆ หนูก็เคยทำมา มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หนู ลองมาหมดแล้ว เด็ก ๆ คุณแม่อยากรู้ว่าหนูชอบอะไรก็ส่งไปเรียนโน่นนี่อย่างละนิดอย่างละหน่อย มันก็พอได้เป็นอย่าง ๆ ไป แต่พอมาถึงจุดตรงนี้เรารู้สึกว่าเราอยากจะทำตรงนี้อะไรก็แล้วแต่ในชีวิต ได้ จับอะไรทำอะไรแล้วต้องทำให้ดี ให้สุด ๆ เอามันสักตั้ง
*เราวางแผนอนาคตยังไงกับวงการบันเทิง?
ตอนนี้ยังไม่ทราบค่ะ รู้แต่ว่าหนูจะต้องดีขึ้น ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องงานแล้วแต่โอกาสที่จะเข้ามา ก็อยากทำทุก ๆ โอกาสที่เข้ามาให้มันดี แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสหนู แค่ไหน จริง ๆ ก็อยากเข้าสู่วงการบันเทิง ตั้งแต่หนูออกมาจากบ้านหนู อึ้งเลย เพราะคนที่เขาไม่รู้จักเรา ไม่เคยเจอตัวจริงเรามาก่อน ไม่เคยแม้แต่จะคุยกับเราสักคำเดียว เขายอมเสียเงินในโทรศัพท์ แม้แต่โหวตเดียวมันก็ 6 บาท เขามากดโหวตเรา แล้วคนคนหนึ่งไม่ได้โหวตแค่ครั้งเดียว ก็รู้สึกเขามารักเราได้ขนาดนี้ ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน ก็รู้สึกดีมาก ๆ ค่ะ
*ชีวิตที่ยังไม่มีชื่อเสียงกับมีชื่อเสียงแล้วชอบแบบไหนมากกว่ากัน?
“มันต่างกัน แต่ก็ดีทั้งสองแบบ การอยู่เรียบ ๆ ก็เป็นส่วนตัวดี แต่พอเรามาถึงจุดนี้ยืนตรงที่สว่างมีชื่อเสียง เราก็ต้องทำตัวให้ดี เป็นตัวอย่างให้น้อง ๆ อีกหลายคน ถ้าเรามายืนในที่ที่ทุกคนเห็นก็อยากทำ ตัวดี ๆ ที่เป็นตัวอย่างได้ค่ะ ไม่อึดอัดกับการโดนจับตามอง ในเมื่อเราเลือกที่จะมายืนอยู่ตรงนี้เราก็ต้องยอมรับมันค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบ หนูชอบงานตรงนี้ ทำแล้วสนุกมีความสุขก็อยากจะทำ
*มีคนเมาท์ว่าทำศัลยกรรมมาจริงหรือเปล่า?
หนูก็มีช่วงขี้เหร่ของตัวเองค่ะ แต่พอโตขึ้นมาก็จะดีขึ้น ทุกคน จะมีช่วงขี้เหร่ ตอนหนูเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตัวดำดัดฟัน หน้าก็จะตลก ๆ ทำศัลยกรรมก็คือหนูก็อยากมีบุคลิกภาพที่ดีค่ะ ก็ทำจมูกเสริมโหงวเฮ้ง แค่นี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เพื่อให้เรามีบุคลิกดีขึ้นค่ะการทำศัลยกรรมตอนนี้หนูคิดว่า มันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้ทำ ทั้งหน้า มีคนบอกว่าให้หนูไปกรีดตาตัดปาก ทำคาง หนูบอกเลยว่าพี่ ให้หนูไปตัดหัวเปลี่ยนใหม่เลยดีกว่ามันเยอะไป
*ตอนนี้มีคนมาจีบบ้างมั้ย?
ปกติก็ไม่มีใครมาจีบ หนูโก๊ะไงคะเปิ่นเสร่อ ส่วนมากเพื่อนจะเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ที่เป็นผู้ชายไปไหนก็จะลุย ๆ กัน
*ตอนที่ออกจากบ้านดูโตโน่จะอาลัยอาวรณ์ คนก็เมาท์ว่าโตโน่เศร้าเพราะคิดถึงเกรซ?
ไม่ค่ะ พี่โตโน่เขามีน้องสาวรุ่นราวคราวเดียวกับหนูนี่แหละ พี่เขาก็เอ็นดูหนู เหมือนน้องสาว อยู่ในบ้านเรา 8 คนก็เป็น พี่น้องกัน อยู่กันตั้ง 24 ชั่วโมงก็สนิทกันมาก ก็เคยได้ยินกระแสนี้นะ ก็ขำค่ะ
*ตอนนี้เรียนอะไรอยู่?
“เรียน ปวช. ปี 3 เตรียมวิศวะไฟฟ้า ที่โรงเรียนเตรียมวิศว กรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เรียนเน้นทางวิชาช่าง วิศวกรรมนี่หนูชอบค่ะ จะทำงานด้านนี้ในอนาคตหรือเปล่ายังไม่ทราบค่ะ เพราะคิดว่าเราเรียนอะไรที่มันมีโอกาสมากกว่า เรียนยาก ๆ มันก็ทำให้เรามีโอกาสมากกว่า ตอนนี้ก็ขอทำงานด้านนี้ไปก่อนก็ขอทีละอย่างทำให้ดี ๆ ไปก่อน แต่ก็ไม่ทิ้งการเรียนเด็ดขาด จะมุ่งมั่นกับทุกอย่าง ความจริงหนูชอบการเรียน อยากเรียนให้ถึงปริญญาเอกเลย เรียนได้กลาง ๆ พอไปได้ ไม่ใช่ต้องเป็นที่หนึ่ง แต่ก็พยายามเต็มที่ตามความสามารถของหนู
*เรียนวิศวกรรมดูขัดกับบุคลิกนะ?
จริง ๆ หนูก็ไม่ใช่คนหวานนะ โก๊ะ ๆ เสร่อ ๆ ง่าย ๆ ลุย ๆ แต่ไม่ถึงกับห้าวขนาดนั้น เป็นคนขำ ๆ ค่ะ
ตอนนี้คงได้รู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น ต้องเรียกว่าเป็นสาวสวย ที่แอบซ่อนความห้าวไว้เต็มเหนี่ยวจริง ๆ อีกไม่นานวงการบันเทิงคงได้ต้อนรับน้องใหม่คนนี้แน่ ๆ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น