วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553
ธัญญ่า เผยหมดเปลือก ข่าวฉาวทำครอบครัวหวิดล่ม!
แต่งงานอยู่กินกันมาเกือบ 5 ปี จนมีสร้อยทองคล้องใจคือ "น้องลียา-ลลียา เองตระกูล" สำหรับนางเอกสาว ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล และสามีไฮโซ เป๊ก-สัณชัย เองตระกูล แต่ล่าสุดครอบครัวของสาวธัญญ่ากลับเจอมรสุมข่าวเม้าส์สนั่น ว่านางเอกตาคมวิกหมกชิตกำลังเขย่าขาเตียงที่แข็งแกร่งให้สั่นคลอน ... งานนี้เราชวน ธัญญ่า มาเปิดใจหมดเปลือกถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ...
"ธัญญ่า ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบั่นทอนต่อครอบครัวมาก ตอนนี้ต่างคนต่างถอยเพื่อทบทวนตัวเอง ดูตัวเราว่าพร้อมขนาดไหน เค้าพร้อมขนาดไหนที่จะเริ่มต้นกันใหม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือลูก จะทำอะไรก็ตามไม่อยากให้ลูกมีปัญหา พ่อแม่ไปคนละทาง การเลิกกันเป็นสิ่งที่ยากมาก สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานาน เพราะโดยพื้นฐานเรารักกันอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เรามีลูก ซึ่งเค้าคือสิ่งที่สำคัญสุด แต่ถ้ามันมีปัญหาคาราคาซังมาก ก็อาจทำให้ ธัญญ่า กับ พี่เป๊ก แยกทางกันได้ เราต้องยอมรับความจริงที่มันเกิดขึ้น" ธัญญ่า กล่าว
นางเอกลูกครึ่ง กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่ ธัญญ่า จะเคลียร์กับ พี่เป๊ก ยอมรับว่าอึดอัดมาก ไม่รู้หาทางออกยังไง แต่พอใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ใช้เวลากับ พี่เป๊ก ปัญหาก็ค่อย ๆ คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ทุกวันนี้ธัญญ่ามองว่าวันนี้เคลียร์ได้แล้ว ทุกอย่างจบ เหมือนเริ่มต้นใหม่ เหมือนการแต่งงานใหม่อีกครั้ง พี่เป๊กเค้าเพิ่งรู้สึกว่าธัญญ่ารักเค้ามากขนาดนี้ ทั้งเค้าและตัวเราพยายามแก้ไขตัวเอง ช่วงนี้มันอาจจะเป็นช่วงมรสุมชีวิตแย่ ๆ
ธัญญ่า กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องรถที่มีข่าวว่า พี่เป๊ก ถอยรถให้น้องคนนั้น จริง ๆ ธัญญ่า รับรู้ว่าเค้าซื้อรถจาก พี่เป๊ก จริง แต่ให้หรือไม่ให้ ธัญญ่า ไม่สามารถตอบแทนได้ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ต้องรอดูกันต่อไป ทุกวันนี้ ธัญญ่า ได้กำลังใจจากครอบครัว พี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อนๆ เยอะมาก ทุกคนจะบอกให้ใจเย็น ๆ คิดดีๆ ยังไงก็ให้คิดถึงลูก เพราะ ธัญญ่า เป็นคนที่ตัดสินใจอะไรแล้วจะเด็ดขาด ขาดคือขาดเลย
"ตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกรัก พี่เป๊ก น้อยลง เพราะที่ผ่านมาทำหน้าที่สามี ทำหน้าที่พ่อของลูกเค้าไม่ขาดตกบกพร่องเลย แค่ความเชื่อใจมันน้อยลงเท่านั้น ส่วนจะน้องให้ลียาหรือเปล่าอันนี้ก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้ามีลูกสักคนคงดีจะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน แต่คงต้องดูสถานการณ์ด้วย" ธัญญ่า กล่าวทิ้งท้าย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น